ในล้านนา เมื่อถึงวันเพ็ญเดือน 4 มีประเพณีสำคัญที่ทำกันมาแต่โบร่ำโบราณ
คือการตานข้าวใหม่และตานหลัวหิงไฟพระเจ้า
“ตาน”เป็นคำเดียวกับ“ทาน”ในภาษากลาง หมายถึงการถวาย การให้
หรือการมอบ
เดือน 4 ของล้านนา ตรงกับช่วงเดือนธันวาคมต่อเนื่องถึงมกราคม เป็นช่วงที่ชาวบ้านเพิ่งเสร็จภารกิจเก็บเกี่ยวข้าวที่ปลูกลงนากันมาแต่ฤดูฝน
ข้าวใหม่ที่เพิ่งเก็บเกี่ยวไปเก็บไว้ในยุ้งฉาง ก่อนจะนำมารับประทาน
ชาวบ้านจะนำข้าวเหล่านั้นไปถวายพระเพื่อเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่พ่อแม่
ปู่ย่าตายายผู้ล่วงลับ ที่เป็นเจ้าของนามาแต่ดั้งเดิม รวมถึงเทวดา เจ้าป่าเจ้าเขา
ที่ดูแลปกปักษ์รักษาพื้นที่ทำกินของพวกเขา
การทำบุญนี้เรียกว่า“ตานข้าวใหม่”
วันเพ็ญเดือน 4 ยังเป็นช่วงที่ล้านนามีอากาศหนาวเย็น
ชาวบ้านเชื่อว่าพระเจ้า ซึ่งคือพระพุทธรูปที่อยู่ในโบสถ์-วิหาร
ก็ต้องหนาวเย็นเหมือนกับคน จึงช่วยกันหาฟืนมาสุม ก่อเป็นกองไฟสร้างความอบอุ่นให้กับพระเจ้า
คำว่า“หลัว”ภาษาล้านนาหมายถึงฟืน ส่วนคำว่า“หิง”คือการผิงไฟ
“ตานหลัวหิงไฟพระเจ้า” ก็คือการถวายฟืนก่อกองไฟถวายแก่พระพุทธรูปให้ได้ผิงไฟป้องกันความหนาว
รวมถึงพระสงฆ์ที่อยู่ในวัดก็จะได้รับไออุ่นจากไฟกองนี้ไปด้วย
ตานหลัวหิงไฟพระเจ้าและตานข้าวใหม่ มักทำไปพร้อมๆกัน
ตามประเพณีดั้งเดิมจะแห่ฟืนและข้าวใหม่เข้าวัดตั้งแต่เช้ามืด
ฟ้ายังไม่สว่าง เมื่อฟืนซึ่งสุมก่อไฟสร้างความอบอุ่นแก่พระพุทธกำลังลุกโชนได้ที่
ชาวบ้านจะนำข้าวใหม่ไปจี่ในกองไฟเพื่อทำเป็นข้าวจี่ หรือใส่กระบอกไม้ไผ่นำไปเผาเพื่อทำเป็นข้าวหลาม
ข้าวจี่และข้าวหลามเหล่านี้ จะนำมาตักบาตรถวายแก่พระสงฆ์ในตอนเช้า
จากนั้นชาวบ้านจึงจะนำไปรับประทาน
ปัจจุบัน การตานข้าวใหม่และหลัวหิงไฟพระเจ้ามีทำกันในวัดที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมือง
ซึ่งชาวบ้านยังคงวิถีดั้งเดิมเอาไว้ได้ ส่วนวัดในตัวเมืองไม่ค่อยได้ทำกันแล้ว
วันเพ็ญเดือน 4 ปีนี้ ตรงกับวันที่ 1 มกราคม
พ.ศ.2561 ซึ่งเป็นวันปีใหม่ วัดต้นเกว๋น อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ดำริจะริเริ่มประเพณีนี้ขึ้นมาอีกครั้ง
โดยจัดในวันนี้เป็นครั้งแรก